The Babysitter
รีวิว The Babysitter - เดอะ เบบี้ซิตเตอร์
หนังตลกสยองขวัญสุดเฮฮาบันเทิงของ Netflix ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มน้อยวัยรุ่นที่หลงรักพี่เลี้ยงสาวสุดเซ็กซี่ แต่กลายเป็นว่าเธอคือนางมารร้ายที่บูชาปีศาจ รีวิว The Babysitter
เรื่องย่อ
เรื่องราวของหนุ่มน้อยโคล หนุ่มน้อยวัย 12 ปี พ่อแม่ของเขาได้จ้างพี่เลี้ยงให้มาดูแลก่อนที่พวกเขาจะไปเที่ยวกัน และในคืนนั้นโคลตัดสินใจทดสอบตามคำชักชวนของเพื่อนที่ให้แอบดูพี่เลี้ยงของเขาว่าแอบทำอะไรตอนกลางคืน จะชวนผู้ชายมาแอบมีอะไรกัน หรือจะหลับเฉย ๆ เป็นปกติกันแน่ และมันทำให้เขาได้รู้ว่าพี่เลี้ยงสุดฮอตของเขาเป็นพี่เลี้ยงโรคจิต และยังเป็นสมาชิกลัทธิซาตานอีกด้วย ซึ่งเธอพร้อมที่จะทำทุก ๆ อย่างเพื่อไม่ให้เขาพูดเรื่องนี้ออกไป
เป็นภาพยนตร์จาก Netflix อีกแล้ว ภาพสวยนะ ชอบการดำเนินเรื่อง เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน อาจจะงง ๆ บ้าง ยอมรับเลยว่าไม่ชอบหนังแนวนี้และถ้ารู้ก็คงจะไม่ดู แต่เราก็หลวมตัวไปแล้ว ดูหนังเรื่องนี้ไปแล้ว ถามว่าลุ้นระทึกไหม แน่นอนว่าใช่ ตัวเนื้อเรื่องไม่ได้แปลกแหวกแนวเท่าไหร่ พอเป็นหนังสยองขวัญจะแนว ๆ นี้กันทั้งนั้น
ตัวหนังพยายามทำให้รู้สึกตลก แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ตลกแถมยังดูขัดมากในความรู้สึกเรา ซีนอารมณ์เกือบจะทำได้ดี แต่ก็ยังไม่สุด ชอบตัวพี่เลี้ยงนะ เธอดูสวยดูเก่งและเท่ในเวลาเดียวกัน เสียดายที่ตัวละครนั้นดูหนังออนไลน์เยอะเกินไปทำให้กระจายบทได้น้อย มีฉากที่หักมุมอยู่บ้าง จะทำให้รู้สึกคาดไม่ถึงว่าโคลจะทำแบบนี้...
หนังตลกสยองขวัญที่มีสไตล์แปลกแบบแนวๆ หลายอย่างในตัวเอง จนจัดว่าเป็นหนังคัลท์เลยก็ว่าได้ ซึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะกับผู้ชมทั่วไปนัก เพราะหนังค่อนข้างเฉพาะกลุ่มคนดูอยู่เหมือนกัน ด้วยแนวทางการนำเสนอเรื่องด้วยไอเดียบ้าๆ เนิร์ดๆ ที่หลายคนอาจจะเข้าไม่ถึงมุกตลกพวกนี้ รวมถึงฉากเลือดสาดบ้าบอของเรื่องที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยไม่ได้ต้องการความสมเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ...
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของโคลหนุ่มน้อยวัย 12 ปีที่เป็นลูสเซอร์ของแท้ประจำโรงเรียน วันๆ โดนกลั่นแกล้งจากทั้งเด็กโตและรุ่นเดียวกันตลอดเวลา แต่เขามี Bee พี่เลี้ยงสุดเซ็กซี่ประจำตัวที่พ่อแม่จ้างมาให้ดูแลช่วงที่ตะลอนๆ ไปเที่ยวกันสองคน ซึ่งทั้งโคลกับ Bee เข้าขากันสุดๆ เล่นทุกมุกเนิร์ดๆ รับส่งกันได้หมด จนโคลแอบหลงรักพี่เลี้ยงสาวคนนี้อยู่ลึกๆ ก่อนที่จะพบว่าเบื้องหลังของ Bee เธอเป็นหัวหน้ากลุ่มบูชาปีศาจ ที่มีแก๊งเพื่อนอีก 4 คนที่วิกลจริตไม่แพ้กัน ซึ่งโคลต้องเอาชีวิตรอดจากแก๊งนี้ให้ได้ด้วยความสามารถของเด็กเนิร์ดขี้แพ้ในค่ำคืนแสนวิปริต ภายใต้พิธีกรรมบูชายัญที่ Bee จัดขึ้นมา
ว่าแล้วในคืนเดียวกันนั้นเอง โคลที่แกล้งทำเป็นเล่นจนเหนื่อยแล้วเข้าห้องนอนตามคำสั่งของบี ก็ได้เริ่มทำตามแผนการของเขาที่วางเอาไว้กับเพื่อน ซึ่งนั้นก็คือการแอบดูพี่เลี้ยงสาวของตัวเองในตอนกลางคืน ไม่ทันไรเสียงกดกริ่งหน้าประตูบ้านก็ดังขึ้น พร้อมกับพาเหรดเพื่อนๆของบีที่ทยอยกันเข้ามาหลายคน พวกเขามีปาร์ตี้กันที่นี่และโคลก็แอบดูพวกเขาอยู่บนชั้นสองของบ้าน
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆบีก็หยิบมีดอันคมกริบขึ้นมาแล้วกระซวกลงหัวของหนึ่งในเพื่อนสมาชิกที่มาด้วยกัน จากนั้นคนที่เหลือก็ไปหยิบเอาถ้วยขึ้นมารองเลือดที่ทั้งไหลรินและพวยพุ่งไปในอากาศ แท้ที่จริงแล้ว บีกับกลุ่มเพื่อนๆคนที่เหลือของเธอก็คือลัทธิบูชายัญ (What The Fuck!!) ที่จะหลอกหนุ่มสาวพรรมจรรย์มาฆ่าบูชาซาตาน เพียงเพื่อหวังที่จะให้ความปราถนาของตัวเองเป็นจริง โคลที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็ได้แต่ยืนอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกเพราะตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เขาวิ่งกลับไปในห้องนอนแล้วพยายามคิดหาทางเอาชีวิตรอดออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ทว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เมื่อบีจับได้ว่าโคลพยายามคิดหนึและโทรแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอบอกกับหนุ่มน้อยว่าสิ่งเดียวที่เขาทำผิดพลาดที่สุดในชีวิตก็คือการหนีออกไปจากที่นี่ เพราะบีและเพื่อนๆของเธอไม่ได้เจตนาจะฆ่าโคลเลยแม้แต่น้อย แต่ก็จะให้คนที่รู้เห็นเหตุการณ์บูชายัญในครั้งนี้รอดชีวิตออกไปไม่ได้เช่นกัน งานนี้หนุ่มน้อยโคลจึงต้องงัดทุกอย่างออกมาใช้ เพื่อต่อกรกับเหล่าบรรดาพี่เลี้ยงสุดโหดและบ้าเลือด งานนี้จึงมีแต่ โหด มันส์ ฮา แน่นอน
ถ้าใครเคยดู Home Alone โดดเดี่ยวผู้น่ารัก มาเรื่องนี้ก็เดินเรื่องไปแบบเดียวกัน คือเกมไล่จับระหว่างแก๊งตัวร้ายกับโคลในบ้านหลังเดียว (มีแวบออกไปนอกบ้านบ้างนิดหน่อย) แต่ต่างกันตรงที่ Home Alone เป็นหนังเด็ก แต่เรื่องนี้คือซีรี่ย์ Netflixติดเรต 18+ เล่นกันถึงตายเลือดสาด ซึ่งแก๊งของ Bee แต่ละคนก็มีความจิตเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปเวลาไล่ฆ่า ซึ่งเรื่องก็ให้โคลจัดการแก๊งพวกนี้ได้แบบทั้งฟลุ๊คทั้งวางแผนทีละคน ซึ่งบทก็ทำออกมาได้ฉลาดมีลูกล่อลูกชนให้โคลตลอดเวลาแบบเดายากว่าจะจัดการแต่ละคนได้ยังไง โดยมีฉากโหดตายสยองแบบศพไม่สวยที่แฝงไว้ด้วยความฮาไปพร้อมกัน
และหนังก็ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแนว แต่ยังเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องด้วยการขึ้นตัวอักษรโตๆ ปะใส่ในฉากมาเรื่อยๆ แทนคำอุทานในช่วงเวลาต่างๆ หลายแบบ ซึ่งดูโลวคลาสเป็นหนังเกรดบีแบบที่ตัวผู้กำกับตั้งใจให้เป็นแบบนี้แหละ ซึ่งคนดูที่ปรับตัวไม่ทันก็อาจจะสาปส่งกับแนวทางการเดินเรื่องหลังจากนี้ที่ทุกอย่างแทบไม่ต้องมีเหตุผลมากแล้ว เป็นช่วงเวลาที่เรื่องตั้งใจให้คนดูหรรษากับการล่า ฆ่า โหด เลือดสาดเละเทะไปหมด
และตัว Bee เองก็คือลาสบอสสุดท้ายของเรื่องนี้ที่โคลต้องจบเรื่องด้วยวิธีพิสดารกว่าใคร (สุดๆ มาก) แต่ถึงเรื่องจะหักลำให้ Bee ดูเลวร้ายสุดๆ แต่ตอนท้ายเรื่องก็ยังมีช่วงเวลาดีๆ แบบตอนแรกกลับมา ซึ่งบทหนังฉลาดที่วกกลับถึงเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในแบบที่เกือบจะเหมือนการสารภาพรักแบบเนิร์ดๆ ที่ทำเอาคนดูอมยิ้มได้เหมือนกัน
จุดเด่น
แต่จุดเด่นสุดของเรื่องคือตัว Bee พี่เลี้ยงสุดเซ็กซี่ที่มีเสน่ห์เหลือล้นของเรื่อง ซึ่งบทนี้แสดงโดย Samara Weaving ที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าเธอจากหนังโรงเรื่อง Ready or Not เกมพร้อมตาย มากกว่าเรื่องนี้ แต่ความเซ็กซี่แบบเลือดสาดก็ไม่แตกต่างกัน จนเหมือนเธอจะกลายเป็นเจ้าแม่หนังคัลท์เลือดสาดไปแล้วก็ได้ ซึ่งบท Bee ในช่วงแรกคือพี่เลี้ยงใจดีที่สนิทกับโคลแบบเข้ากันได้เหมือนคู่ซี้ปึ๊กสุดๆ ซึ่งในเรื่องคือ โคลก็ แอบหลงรัก Bee อยู่ลึกๆ
ซึ่งหนังก็สะท้อนช่วงเวลาการเป็นวัยรุ่นสนใจเพศตรงข้าม โดยเฉพาะสาวที่โตกว่า แต่เรื่องไม่ได้ออกมาลามกอะไรทำนองนั้น แต่เป็นแนวความรักแบบเด็กๆ ถึงพี่เลี้ยงคนสวยแสนดี ซึ่งคนดูก็คงเคลิ่มไปกับความสวยน่ารักของ Bee ในช่วงแรกไปเหมือนกัน ก่อนที่หนังจะหักกันดื้อๆ ด้วยการเปลี่ยนโทนเป็นเลือดสาดแบบฉับพลัน จนคนดูต้อง What the Fuck ไปพร้อมกับตัวเอกในเรื่องแน่นอน
สยองขวัญ..เลือดสาด!?
เหมือนเอาหนังสยองขวัญแนววัยรุ่นไล่เชือดอย่าง Scream มาบวกเข้ากับภาพยนตร์ตลกเบาสมองอย่าง Home Alone ที่ต้องให้เจ้าหนูน้อยโคลต้องมาเผชิญหน้ากับแก๊งค์ตัวร้ายเพียงลำพัง ที่แตกต่างกันก็คือเปลี่ยนจากโจร มาเป็นลัทธิบูชายัญซาตานแทน ซึ่งแต่ละตัวละครก็นะ สุดจะรั่วและโหดเกินคำบรรยาย ตัวหนังปูความสัมพันธ์ของโคลกับบีมาได้เป็นอย่างดี ดูแล้วรู้สึกอิจฉาโคลและสงสารไปพร้อมๆกัน
ไม่น่าเชื่อว่าภาพยนตร์ที่ฉายแต่ในเฉพาะทางออนไลน์อย่าง Netflix จะสามารถทำออกมาได้ดีและโหดได้จนถึงขนาดนี้ เรียกได้ว่าเลือดสาด ฆ่าเป็นฆ่า ตายเป็นตายกันเลยทีเดียว เผลอๆผมว่าอาจจะดีกว่าภาพยนตร์สยองขวัญบางเรื่องที่ฉายในโรงภาพยนตร์เสียด้วยซ้ำไป ดูสนุกและน่าติดตามว่าโคลจะเอาชีวิตรอดออกไปจากสถานการณ์นี้ได้ยังไงกัน
โดยรวมซีซั่นนี้
ตลอดระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณจะได้สัมผัสรสชาติที่เหมือนเอาหนังหลายๆเรื่องมายำรวมกัน ทั้งสนุกสนาน ตื่นเต้นและลุ้นระทึกชนิดที่ว่าละสายตาไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบีและโคล ที่ใครหลายๆนดูแล้วยังถึงกับฟิน (มันน่ารักจริงๆนะ ไม่เชื่อต้องไปดูด้วยตาตัวเอง) แต่ทว่าไปๆมาๆ ตัวหนังดันหักหลังเราด้วยการให้บีกับเพื่อนๆของนางกลายมาเป็นแก๊งค์ลัทธิบูชายัญซะนี่ เวรกรรมจึงตกมาซวยที่เจ้าหนูโคลที่ดันแอบทะลึ่งมาเห็นเหตุการณ์เข้าซะได้
หลังจากนั้นก็ตามเรื่องเลยครับ สนุกมากกกก แนะนำว่าไม่ควรพลาดเลย
สรุป
ตัวหนังครบรสทั้ง ตลก สยอง รัก พร้อม Coming of Age ปิดท้าย แบบถ้าใครถูกใจอะไรแบบนี้ก็น่าจะดูจบแบบโดนใจใช่เลยสุดๆ แต่ถ้าใครรับไม่ได้กับความมั่วซั่วเละเทะของเหตุผลในเรื่องที่มีน้อยนิด อันนี้ก็คงไม่ใช่กลุ่มทาเก็ตของผู้ชมเรื่องนี้ครับ
ปล. The Babysitter ภาค 2 Killer Queen ดูรีวิวได้ที่นี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น